วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผนังวอลล์เปเปอร์ เสียหาย จากน้ำท่วม ซ่อมอย่างไร wallpaper

ปัญหาน้ำท่วมนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านทางด้านโครงสร้างแล้ว ยังสร้างความเสียหายกับงานตกแต่ง และสถาปัตยกรรม อีกด้วย ซึ่งงานนี้ถ้าใคร มีผนังบ้านที่กรุด้วย วอลล์เปเปอร์ต้องอ่านให้ดีครับ
ผนังบ้านที่กรุด้วยวอลล์เปเปอร์นั้น ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วครับว่า เปเปอร์ ก็คือมันมีลักษณะเป็นแผ่นไวนีล บาง ๆ และในการติดนั้นยังต้องใช้ส่วนผสมของกาวเพื่อติดผนังอีก ดังนั้นความทนทานต่อน้ำ นั้นมีน้อยมาก ถึงมากที่สุด แน่นอนว่าถ้าบ้านท่านน้ำท่วม จนเปียกผนังที่ทำจากวอลล์เปเปอร์ของท่านแล้ว ผนังย่อมเสียหายอย่างแน่นอน เพราะวอลล์เปเปอร์ จะหลุดลอกออก หรือถ้าไม่ลอก ก็ขึ้นรา จนดูไม่สวยเอาซะเลย
การแก้ไขนั้น ก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่จะแก้ไข ดังนั้น คนส่วนใหญ่ จึงมักจะลอกออกแล้วทำใหม่ไปซะเลยหมดเรื่องหมดราว แต่ในสถานการณ์น้ำท่วมแบบนี้ บางท่านอาจจะไม่มีเงินในการซ่อมแซมบ้าน และอาจจะต้องการรักษาสภาพของบ้านไว้ให้ดีที่สุด หากต้องการรักษาวอล์เปเปอร์ไว้ ก่อนที่น้ำจะท่วม ให้ท่านไปกรีตเอา วอลล์เปเปอร์ ส่วนที่จะจมน้ำออกซะ โดยกรีตให้สูง เหนือกว่าระดับน้ำท่วม ประมาณ 50 เซนติเมตร น่าจะพอช่วยได้บ้าง ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่า ป้องกันน้ำซึมในเนื้อวอลล์เปเปอร์ จนเปียกไปทั้งผนังนั่นเอง แต่ถ้าบ้านใครน้ำท่วมจนถึงหลังคา อันนี้ก็คงช่วยอะไรไม่ได้นอกจากทำใจอย่างเดียวครับ

ปัญหาน้ำท่วมสร้าง ความเสียหายอย่างมาก ในหลาย ๆ ด้าน และในด้านที่อยู่อาศัย ก็เป็นปัญหาหลักอันดับต้น ๆ ที่เกิดขึ้นกับชาวไทยของเรา ผมได้แต่หวังว่า พลังน้ำใจที่คนไทยมีให้กัน คงจะพอช่วยให้ชาวไทยของเรา พ้นจากความวุ่นวายครั้งนี้ได้...
read more "ผนังวอลล์เปเปอร์ เสียหาย จากน้ำท่วม ซ่อมอย่างไร wallpaper"

น้ำท่วม จะทำให้บ้านทรุดตัวได้ไหม

ผมขอเกาะติดปัญหาน้ำท่วมเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ ซะหน่อย วันนี้เลยมีปัญหาเกี่ยวกับบ้านที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างน้ำท่วมได้ โดยเราจะมาเริ่มกันที่ทำความเข้าใจกันก่อนครับว่าบ้านเรามีโครงสร้างอย่างไร เพื่อจะได้รู้ว่า ถ้าบ้านจะทรุด จะเกิดได้ในกรณีไหนบ้าง

กรณีแรก ในกรณีที่บ้าน สร้างด้วยวิธีที่ทันสมัยหน่อย ก็จะมีโครงสร้างประมาณรูปข้างล่างนี้




ก็คือว่า ที่ฐานรากบ้านหลังนี้จะมีเสาเข็มอยู่ ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ดี ดังนั้นการที่ตัวบ้านจะทรุดตัวเพราะน้ำท่วมอาจจะยากหน่อย เพราะว่าการตอกเสาเข็มจะทำให้บ้านรับน้ำหนักได้มาก
แต่ลองไปดูที่ระบบพื้น ตรงที่เขียนไว้ว่า พื้นวางบนดิน หรือ พื้น Onground Slab ตรงนี้ความหมายของมันก็คือตรงตัวเลย คือพื้นบ้านไม่ได้วางอยู่บนคาน หรือฝากไว้กับโครงสร้าง เมื่อเวลาน้ำท่วม ถ้าน้ำไม่ได้ซึมเข้ามาใต้พื้นของบ้าน เหมือนตรง ลูกศรสีเขียวชี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าหาก ว่าน้ำซึมเข้ามาได้ เหมือนตรงลูกศร สีแดง ชี้ ตรงนี้น่ากลัวหน่อย เพราะว่าดินอาจจะเกิดการทรุดตัวทำให้พื้นบ้าน นั้นทรุดตัวลงมาด้วย ซึ่งถ้าทรุดตัวลงมาจริง ๆ อาจจะต้องมีการ ทุบพื้นเก่าออก แล้ว นำดินเข้าไปบดอัด แล้วเทพื้นใหม่ ซึ่งรับรองว่างานนี้งานยาวแน่นอน

ส่วนกรณี ที่บ้านอาจจะสร้างด้วยวิธีแบบเก่าหน่อย เช่น อาจจะไม่ได้ทำการ ตอกเสาเข็มไว้ หรือที่เรียกกันว่า ฐานรากแผ่ ตรงนี้อาจจะมีปัญหาหนักกว่าใคร ตามรูปด้านล่าง


ในกรณีที่ไม่ได้ตอกเสาเข็มไว้ ถ้าหากว่าน้ำซึมลงมาถึงด้านล่างบริเวณฐานราก ก็มีโอกาสอย่างมากที่บ้านจะเกิดการทรุดตัวลงมา  แต่ในการทำฐานรากแผ่ ส่วนใหญ่จะมีการขุดดินให้ลึกถึงดินเดิมซึ่งเป็นชั้นดินที่แข็ง สามารถรับน้ำหนักได้ดี สำหรับบ้านทั่วไป แต่ถ้าหากเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลาหลายวัน ดินที่แข็งนั้นอาจจะเกิดการซับน้ำไว้ปริมาณมาก แล้วจึงอ่อนตัวแล้วทำให้บ้านทรุดลงได้ และในการทำโครงสร้างประเภทฐานรากแผ่ ส่วนใหญ่ ก็จะทำระบบพื้นวางบนดินอยู่แล้ว งานนี้คงไม่ได้มีปัญหาแค่ตัวบ้าน แต่ลุกลามไปยันพื้นบ้านเลย

ปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทยเราตอนนี้ เรียกว่าเป็นปัญหาที่หนักมาก โชคดีที่คนในประเทศไทยเป็นคนมีน้ำใจช่วยเหลือกัน ผมเชื่อว่าปัญหาน้ำท่วม จะสามารถคลี่คลายได้ในเร็ววัน ผมขอเป็นแรงใจให้ทุกท่านสู้กับปัญหาต่าง ๆ ให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ด้วยเทอญ...
read more "น้ำท่วม จะทำให้บ้านทรุดตัวได้ไหม"

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ระวัง โคนเสาบ้านแตกร้าว เพราะความมักง่าย

ผมเคยโดนเพื่อนบ้านข้างเคียง เรียกให้ไปดูว่าทำไมโคน เสาที่บ้านเขาถึงแตกร้าวทุกต้นเลย ตอนแรกคิดว่าโดนกระแทกจากอะไรบางอย่าง แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องแตกร้าวเฉพาะต้นที่โดนกระแทก แต่นี่เล่นแตกร้าวทุกต้น ผมก็เลยไปดู และได้ไปแกะเอาปูนที่หุ้มอยู่ที่โคนเสาออก นิดหน่อยเพื่อดูว่ามันเป็นอะไร..สิ่งที่ผมเห็นก็คือว่า เกิดสนิมที่เหล็กเสริมภายใน ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของงานโครงสร้างเลยทีเดียว เมื่อสนิมกินเหล็กเสริมแล้ว ทำให้เนื้อปูนที่ห้อหุ้มอยู่ หลุดออกมา...

ก็เลยได้ไปสอบถามจากเจ้าของบ้าน ถึงขั้นตอนการทำต่าง ๆ แล้วก็ได้ความว่า ตอนที่เทฐานรากครั้งแรก ได้มีการแทงเหล็กเสา จนทะลุฐานรากลงไปในดิน แล้วจึงเทคอนกรีต ก็เลยถึงบางอ้อทันที ว่าทำไมสนิมจึงขึ้นเสามาได้ สอบถามไปทางเจ้าของบ้านว่าทำไมถึงทำแบบนั้น เขาบอกว่าตอนทำก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าไม่น่ามีปัญหา ต่อให้สนิมกินเหล็กขึ้นมาจากใต้ดิน ก็ไม่น่าจะกินลึกขนาดนี้ ทำให้สรุปได้ว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการนั่นเอง..
read more "ระวัง โคนเสาบ้านแตกร้าว เพราะความมักง่าย"

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

จะทำที่จอดรถ ควรจะกว้างเท่าไร ถึงจะดี

ปกติแล้ว กฏหมายไทยกำหนดไว้ว่า ให้ที่จอดรถกว้าง 2.4 เมตร แต่ที่จริงแล้วความกว้างขนาดนี้ เหมาะจะเป็นที่จอดรถ ตามที่ทำงาน ร้านอาหาร หรือที่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่บ้านมากกว่า เพราะว่าเมื่อคุณอยู่บ้าน คุณอาจจะต้องทำความสะอาดรถ เช็ดถู หรือเอาของออก เก็บของเข้า อยู่เป็นประจำ ดังนั้นที่จอดรถควรจะกว้างสัก 3.0 เมตร จะเป็นการดีที่สุดสำหรับการจอดรถในบ้านหนึ่งคัน แต่ว่าถ้าหากมีรถสองคัน ที่จอดรถก็ควรจะแค่ 5.5 เมตรก็พอไม่จำเป็นต้องกว้าง 6.0 เมตร

ตัวเลขที่ให้ไปนี้ เป็นตัวเลขที่เหมาะแก่การสร้างที่จอดรถอยู่แล้ว หากว่าจะเพิ่มให้กว้างมากกว่านี้ ผมมองว่าไม่ควรทำ เพราะว่ามันอาจจะเปลืองเนื้อที่ โดยใช่เหตุ ลองคิดดูว่า พอจอดรถปุ๊ป แต่ยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือเยอะมาก จะจอดรถอีกคันก็ไม่ได้ เพราะไม่พอสำหรับรถอีกคัน แล้วพื้นที่นั้นจะเอาไปทำอะไร ...ยังไงก็อย่าลืมวางแผนให้ดีก่อนสร้าง เพราะว่าการแก้ไขใหม่จะทำให้เปลืองงบโดยไม่จำเป็นนะครับ
read more "จะทำที่จอดรถ ควรจะกว้างเท่าไร ถึงจะดี"

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผนังกันร้อน หรือระบบผนังเย็น ตราช้าง ดีอย่างไร

ถ้าพูดถึงในยุคปัจจุบัน ที่มีอาการร้อนมาก ๆ เพราะอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไป ผนังกันร้อน ของตราช้าง ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวหนึ่งในการสร้างบ้านแน่ ๆ ในขณะที่อาคารที่ใช้วัสดุก่อสร้างชนิดอื่น ๆ สะสมความร้อนทำให้แอร์ทำงานหนัก และกินไฟ แต่กับผนังกันร้อนนั้นไม่ใช่ เพราะคุณจะสามารถประหยัดไฟได้ดีกว่าการใช้ผนังบ้านทั่วไปในปัจจุบันแน่

หากว่าจะมีใครออกมาแย้งว่า ไม่เห็นจะดีตรงไหน วัสดุไม่เห็นจะทรงคุณค่า สู้ใช้ไม้จริง หรือผนังปูนก็ไม่ได้ อันนี้มันแล้วแต่ความคิดส่วนบุคคลครับ เพราะว่าถ้าวัดเรื่องคุณสมบัติของวัสดุกันแล้ว ระบบผนังกันร้อน สมาร์ทวูด ของตราช้าง ก็ไม่แพ้วัสดุอื่น ๆ เหมือนกัน เราน่าจะลองคิดแตกต่างดูบ้าง ไม่จำเป็นต้องตามกระแสนิยม มันจะทำให้เราได้ไอเดียการสร้างสรรค์ ใหม่ ๆเกิดขึ้นมาอีกมากนะครับ
read more "ผนังกันร้อน หรือระบบผนังเย็น ตราช้าง ดีอย่างไร"

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พื้นภายในและภายนอก ทำไมต้องไม่เท่ากัน

การที่พื้นบ้าน ภายในและภายนอก ต้องทำให้ต่างระดับกันไว้ ก็ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น หากว่าภายนอกของตัวบ้าน ไม่มีหลังคา กันสาด การที่บ้านมีพื้นภายในกับภายนอกเท่ากัน เมื่อฝนตกสาดเข้ามา อาจจะทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามาในบ้านได้ แต่ถ้าหากเราทำพื้นที่ต่างระดับไว้ จะทำให้สามารถป้องกันส่วนนี้เยอะมาก

แต่ถ้าหากว่าบ้านของใคร ผิดพลาดสร้างให้พื้นภายในและภายนอกเท่ากันไปแล้ว การแก้ไขก็ยังสามารถทำได้ ก็คือการสร้าง เขิบ หรือธรณีประตูขึ้นมาไว้ สำหรับกั้นน้ำ แต่อาจจะไม่ตรงใจใครหลาย ๆ คน เพราะอยู่ดี ๆ ก็มีขอบประตูด้านล่าง สูงขึ้นมาไว้ให้เดินสะดุดเล่นเวลาเผลอเสียอย่างนั้น..ดังนั้นถ้าหากว่าไม่อยากให้มีปัญหาภายหลัง ก็ควรจะทำการวางแผน และเข้มงวดในการตรวจสอบแบบอาคารแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า...

ที่มา greenhomezone
http://greenhomezone.blogspot.com/
read more "พื้นภายในและภายนอก ทำไมต้องไม่เท่ากัน"

ปัญหาสีทาบ้าน หลุดลอกแก้อย่างไรดี

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน จะมีเทคโนโลยีที่ ผลิตสีให้มีคุณสมบัติเลิศเลอเพอร์เฟคเพียงใด แต่ปัญหาเรื่องสีลอก สีขึ้นราก็ยังมีให้เห็นอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ผลิตภัณฑืประเภทสีทาบ้านที่ผลิตขึ้นมาก็ไม่ได้หลอกลวงผู้บริโภคแต่อย่างไร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการ ขาดการเอาใจใส่ในขั้นตอนการทำงานมากกว่า

ในขั้นตอนการทาสีบ้านนั้น พื้นผิวผนังที่เราจะทาสีจะต้องมีความสะอาด ไม่มีรอยเปื้อนจากดินหรือ ฝุ่นละอองใด ๆ หรือถ้าผนังยังเปื้อนอยู่ก็ควรจะทำความสะอาดให้ดีเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้น ต่อให้สีที่ทาลงไปดีเพียงใด ก็ล่อนหลุดออกอยู่ดี และจำนวนครั้งที่ทาสีก็มีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ออกแบบจะมีการกำหนดไว้ว่าให้ทาสีกี่ครั้ง ซึ่งถ้าทาไม่ครบตามจำนวน ก็จะเป็นสาเหตุให้สีลอกออกได้ในภายหลัง...

ในเนื้อหาข้างต้นนั้น เป็นขั้นตอนก่อนที่จะทำการทาสี แต่ถ้าหากว่าบ้านหลังนั้นได้ทาสีมาแล้ว และเกิดการหลุด ลอก ออกแล้ว การแก้ไขควรจะเป็นการทำความสะอาดสีที่ลอก ล่อน ออกไปก่อน แล้วทาสี รองพื้นใหม่ และจึงทาสีจริง ซึ่งอาจจะใช้งบมากไปหน่อย แต่ว่าในระยะยาวแล้ว จะส่งผลที่ดีมาก แต่ถ้าหากว่าทาทับสีที่ลอก ล่อน ไปเลยก็คงไม่ดีแน่ เพราะว่า สีทั้งหมดก็จะพากันลอก ออกมาอีก..

ที่มา greenhomezone
www.greenhomezone.blogspot.com
read more "ปัญหาสีทาบ้าน หลุดลอกแก้อย่างไรดี"

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ระวังผู้รับเหมาเทคอนกรีต หนามากกว่าที่แบบกำหนด

การเทคอนกรีต หนามากกว่าที่แบบกำหนด เจ้าของบ้านอาจจะมองเห็นเป็นเรื่องดี ว่าการเทคอนกรีตหนา ๆ จะทำให้บ้านแข็งแรงขึ้น ซึ่งความคิดนี้ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูก เพราะว่าในการออกแบบ บ้านหรืออาคารนั้น ไม่ว่าจะออกแบบความหนา ฐานราก ความหนาพื้น หรืออื่น ๆ ผู้ออกแบบจะกำหนด ความหนามาให้อย่างชัดเจน ซึ่งตัวเลขที่ให้ไว้ เป็นตัวเลขที่ได้จากการคำนวน และเป็นตัวเลขที่พอดี และมีการเผื่อไว้แล้ว หากว่าเราเทคอนกรีตให้หนาเพิ่มขึ้นไปอีก อาจจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับโครงสร้าง โดยใช่เหตุ นั่นหมายความว่าในระยะยาว โครงสร้างอาจจะทรุดตัวลงมาก่อนกำหนด เพราะว่าน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้

เห็นอย่างนี้แล้ว เจ้าของบ้านที่กำลังจะสร้างบ้านทั้งหลาย ควรจะรู้ไว้ว่า ที่ผู้รับเหมาเขาเทคอนกรีตหนาเกินไปนั้นใช่ว่าเขาจะแถมให้ แต่อาจจะเกิดการผิดพลาดขณะเทคอนกรีต จึงทำให้มีเนื้อคอนกรีตหนาเกินไป เพราะผู้รับเหมาเอง เขาคงไม่ยอมเสียเงินค่าคอนกรีตนั้นฟรี ๆหรอก   
read more "ระวังผู้รับเหมาเทคอนกรีต หนามากกว่าที่แบบกำหนด"

บ้านทรุดตัว แก้ไขอย่างไรดี

การที่บ้านทรุดตัวนั้น เป็นเรื่องปกติของมันอยู่แล้ว ไม่ใช่แต่เฉพาะบ้านเท่านั้น แม้แต่อาคาร หรือตึก ทั่ว ๆ ไปก็มีการทรุดตัวอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งความจริงก็คือว่า อาคารนั้นจะมีการทรุดตัวลงทุก ๆ ปี จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพดินบริเวณนั้น

ในการตรวจสอบสภาพของอาคารนั้น วิศวกรโครสร้างจะตรวจสอบว่า ลักษณะการทรุดตัวเป็นอย่างไร หากว่าอาคารนั้น เกิดการทรุดตัวแบบ เล็กน้อยและเท่า ๆ กันทั้งหลัง หรือทรุดด้านใด ด้านหนึ่ง แต่รูปทรงอาคารยังอยู่เช่นเดิม อาการแบบนี้ยังไม่น่าห่วงเท่าไร
แต่ถ้าหากว่า เกิดการทรุดตัวที่มกผิดปกติ และมีการผิดรูปของตัวอาคาร แสดงว่าอาการหนัก และอาจจะต้องทำการแก้ไข
read more "บ้านทรุดตัว แก้ไขอย่างไรดี"

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

ซื้อสุขภัณฑ์แล้ว เลือกอุปกรณ์มาให้พร้อม

หลายคนก็รู้แล้วว่า สุขภัณฑ์ที่ซื้อมานั้น ไม่สามารถใช้งานได้ทันที แต่บางคนก็ไม่รู้ ว่าจริง ๆ แล้ว พวกโถส้วม อ่าง ล้างมือ หรือ โถฉี่ ที่ซื้อมานั้น ต้องมี อุปกรณ์อีกหลายอย่าง ที่ต้องซื้อพ่วงมาด้วย เช่น ถ้าซื้ออ่างล้างมือมา ก็จะต้องซื้อก๊อก พ่วงมาด้วย และที่สำคัญ อุปกรณ์ต่อพ่วงพวกนี้มีหลายขนาดมาก ดังนั้นเวลาจะซื้อต้องดูให้เข้ารุ่น เข้ายี่ห้อ อย่าไปเลือกเอาความสวยงามเข้าว่า เพราะมันอาจจะใช้ไม่ได้กับสุขัณฑ์ที่คุณเลือก

ในการซื้อสุขภัณฑ์ คุณก็ควรจะซื้ออุปกรณ์ ที่จำเป็นต้องใช้กับสุขภัณฑ์นั้น ๆมาเลย เพราะว่าจะได้ทดลองสวมใส่ให้เรียบร้อยว่าใช้งานด้วยกันได้หรือไม่ หรือว่าจะได้ขอคำแนะนำจากผู้ขายด้วย ว่าสุขภัณฑ์ที่คุณเลือกใช้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงรุ่นไหนดี  การที่คุณซื้อของเหล่านี้ไปให้ครบในครั้งเดียว จะทำให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายลงไปมาก เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าต้องขับรถไป ๆ มา ๆ บ่อย....

ที่มา greenhomezone
www.greenhomezone.blogspot.com
read more "ซื้อสุขภัณฑ์แล้ว เลือกอุปกรณ์มาให้พร้อม"

การใช้ปูนให้ถูกประภท ปูนโครงสร้าง และ ปูนก่อปูนฉาบ

การเลือกใช้ปูน นั้น คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ ประมาณว่าปูนอะไรก็ใช้ไปเถอะ แต่จริง ๆ แล้วเราควรจะใช้ปูนให้ถูกต้องตามประเภทของงาน ซึ่งเราแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ปูนโครงสร้าง และปูนก่อปูนฉาบ การที่เราต้องแบ่งออกเป็นสองแบบ เพราะว่าเนื้อปูนแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน และมีคุณสมบัติต่างกัน ดังนั้นประเภทกับงานที่ใช้ก็ควรต่างกัน

ปูนโครงสร้าง
เป็นปูนที่มีกำลังอัดสูงมาก ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ แข็งแรงกว่าปูนฉาบอยู่เยอะมาก เช่นปูน ตราพยานาค ปูนตราช้าง ปูนโครงสร้างเหมาะจะใช้ทำ งานก่อสร้างเช่น คาน เสา ฐานราก เทพื้นโครงสร้าง และอื่น ๆ ที่ต้องการความแข็งแรง และวิศวกรส่วนใหญ่มักจะใช้ปูนประเภทนี้คำนวนออกแบบโครงสร้างด้วยเช่นกัน

ปูนก่อปูนฉาบ
เป็นปูนที่มีกำลังอัด หรือความแข็งแรงน้อยกว่า ปูนโครงสร้างมาก เพราะงานก่อฉาบ ไม่จำเป็นต้องใช้ปูนที่มีความแข็งแรงเท่าไร เพราะอยู่ในส่วนที่ไม่ได้รับน้ำหนัก เช่นปูนตราเสือ ตรางูเห่า ตรานกอินทรีย์

เห็นอย่างนี้แล้ว การที่เราจะเอาปูนก่อฉาบ ไปทำงานโครงสร้างนั้นคงไม่ดีแน่ เพราะอาจจะพังลงมาเมื่อไรก็ได้ ดังนั้นถ้าจะสร้างบ้านสักหลัง อย่าลืมคุยกับช่างผู้รับเหมา หรือถามเขาให้ดีว่าปูนที่เขาใช้อยู่เป็นปูนอะไร ไม่งั้นถ้าเกิดโดน ผู้รับเหมาหลอก หรือ ยัดใส้ให้คงจะไม่ดีกับบ้านของท่านเป็นแน่

ที่มา greenhomezone
www.greenhomezone.blogspot.com
read more "การใช้ปูนให้ถูกประภท ปูนโครงสร้าง และ ปูนก่อปูนฉาบ"

ระวังเรื่องงานเสาเข็ม และฐานรากให้ดี ไม่งั้นบ้านอาจจะพัง

งานเสาเข็มและฐานรากถือเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ของตัวบ้าน เพราะฉนั้นงานส่วนนี้ เจ้าของบ้านควรจะเน้นเสียหน่อย เพราะถึงแม้ว่า เสาเข็มและฐานรากจะไม่ได้โชว์ ให้เราเห็น เพราะว่าฝังอยู่ใต้ดิน แต่นี่แหละคือตัวการสำคัญ ที่พอเวลาบ้านทรุดบ้านร้าวแล้ว ก็จะเกิดปัญหาที่ใหญ่มาก ๆ เนื่องจากว่าเรามองไม่เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือต่อให้รู้ว่า ปัญหาเกิดจากฐานราก ก็แก้ไขได้ยากมาก เพราะว่าโครงสร้างส่วนใหญ่ฝังอยู่ใต้ดินทั้งหมด

ในการก่อสร้าง คุณควรจะยอมเสียเงินในส่วนนี้ให้มากหน่อยเพราะ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าถ้าเกิดปัญหาจะแก้ไขยากมาก ดังนั้น เมื่อได้แบบบ้านมา คุณควรจะสอบถาม หรือ พูดคุยกับผู้ออกแบบให้เรียบร้อยก่อน ว่าคุณนั้น ซีเรีนสและให้ความสำคัญกับส่วนนี้ เขาจะได้ออกแบบฐานราก ให้แข็งแรงมากขึ้น และตรวจเช็คอย่างถี่ถ้วนขึ้นไปอีก....

ที่มา greenhomezone
www.greenhomezone.blogspot.com
read more "ระวังเรื่องงานเสาเข็ม และฐานรากให้ดี ไม่งั้นบ้านอาจจะพัง"

วางแนวรั้วบ้านอย่างไร ไม่ให้มีปัญหาทีหลัง

การวางแนวรั้วบ้าน นั้นต้องดูด้วยว่า แนวรั้วที่จะวางนั้นอยู่ติดกับอะไร หรือติดกับที่ของใคร เช่นถ้าหากว่า เราจะวางแนวรั้วด้านหน้า ซึ่งส่วนใหญ่หน้าบ้าน จะอยู่ติดกับพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นรั้วบ้านของเราห้ามเหลื่อมล้ำเข้าไปในพื้นที่นั้นเด็ดขาด

แต่ถ้าหากว่า แนวรั้วที่จะสร้างอยู่ติดกับเพื่อนบ้าน เราสามารถใช้ กึ่งกลางของรั้วกั้นตรงกลาง ระหว่างแนวเขตที่ดินของเราและเพื่อนบ้านได้เลย ดีไม่ดี อาจจะได้คนช่วยหารค่าทำรั้วด้วยนะเพราะว่ามีผลประโยชน์เกิดขึ้นกันทั้งสองฝ่าย

แต่ทั้งนี้ก่อนจะสร้างรั้วอย่าลืม ตรวจสอบบริเวณนั้นให้ดีด้วย เพราะว่าอาจจะมีการฝังท่อน้ำประปาไว้แถวนั้น เดี๋ยวจะไปขุดดินจนโดนท่อน้ำแตก เสียหายไปเสียอีก
read more "วางแนวรั้วบ้านอย่างไร ไม่ให้มีปัญหาทีหลัง"

การเลือกท่อน้ำประปาอย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกท่อน้ำประปา ควรจะเอาใจใส่เสียหน่อย อย่าไปคิดว่าแค่ท่อน้ำประปา ใช้ ๆ ไปเถอะ เพราะคงไม่ดีแน่ ถ้าหากว่าคุณต้องเสียเงินเยอะโดยใช่เหตุ แถมอาจจะเกิดปัญหาตามมาทีหลังด้วย
ในการเลือกท่อน้ำประปาเราควรเลือกชนิดของท่อประปาให้เหมาสมกับการใช้งาน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทได้แก่


1.PVC หรือท่อน้ำสี ฟ้า ๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปนี่เเหละ ท่อ PVC นี้ส่วนใหญ่เราจะใช้ทำ ท่อน้ำประปาในบ้านหรือท่อน้ำทิ้งทั่วไป แต่ว่าท่อ PVC นี้เมื่อโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ อาจจะเกิดการกรอบ และแตก ได้ ท่อ PVC จึงไม่เหมาะสำหรับงานนอกบ้าน


2.PE ท่อพีอี เป็นท่อน้ำ ที่มีคุณสมบัติ สูงกว่าท่อ PVC มาก ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อ 3 ชั้น ซึ่งชั้นนอกสุดจะเป็นสีน้ำเงิน และมีสารที่ป้องกันแสง UV ทำให้ไม่แตกหรือเสื่อมสภาพง่าย ส่วนชั้นกลาง จะเป็นสีดำ ทำให้ทึบแสง จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดตะไคร่น้ำภายในท่อ ส่วนชั้นในสุดเป็นสีขาว มีความลื่นมาก จึงส่งน้ำได้ดี สะอาด และปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ท่อ PE เหมาะแก่การฝังไว้นอกบ้านเป็นอย่างมาก เพราะทนทั้งแดด และความเค็มของดินได้


3.PPR ท่อ ppr เป็นท่อที่ทนความร้อนได้สูงมาก จึงมักจะทำเป็นท่อก๊อกน้ำอุ่น หรือ น้ำร้อนภายในบ้าน ซึ่งท่อ ppr นี้สามารถทนแรงดันได้ถึง 20 บาร์ และทนความร้อนได้ถึง 95 องศา ปราศจากโลหะหนักและไม่เป็นสนิม มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน น้ำหนักเบา
ส่วนใหญ่แล้ว ท่อน้ำร้อนภายในบ้านนั้นจะเป็นท่อทองแดงเสียส่วนใหญ่ แต่ว่าท่อทองแดงนั้น มีน้ำหนักมาก และยังมีสารที่เป็นอันตราย และยังแพงกว่า ท่อ ppr อีกด้วย ท่อ ppr จึงมาทดแทนข้อเสียต่าง ๆ เหล่านี้ให้หมดไป

จากคุณสมบัติของท่อน้ำประปาทั้ง 3 ประเภทนี้คงจะเห็นแล้วว่า ในการสร้างบ้านคุณควรจะเลือกใช้ท่อน้ำแบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากจะได้อายุการใช้งานที่ยาวนานแล้ว ยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและคนรอบข้างของคุณอีกด้วย
read more "การเลือกท่อน้ำประปาอย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งาน"

จะต่อเติมบ้าน ระวังปัญหาตามมา

เรื่องการต่อเติมบ้านนั้น บางคนอาจจะคิดว่า แค่ต่อเติมนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่จริง ๆ แล้ว...การต่อเติมบ้านนั้นสร้างปัญหาให้กับ โครงสร้างบ้านเดิมอย่างมาก เนื่องจากว่า โครงสร้างบ้านหลังเก่า ไม่ได้ออกแบบ ไว้เพื่อรองรับสำหรับงานต่อเติม ดังนั้นการเพิ่มส่วนนั้น ส่วนนี้เข้าไป อาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นโดยใช่เหตุ แถมอาจจะสร้างปัญหาใหญ่ในระยะยาวอีกด้วย...

แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ใช่ว่าการต่อเติมบ้านนั้นจะทำไม่ได้เลย..เพียงแต่ว่าต้องได้รับการวิเคราะห์ และ ออกแบบ จากวิศวกรโยธาเสียก่อน ซึ่งในบางครั้ง สิ่งที่คุณต้องการต่อเติมขึ้นมา อาจจะเป็นไปไม่ได้ หากว่า วิศวกรโครงสร้างลงความเห็นว่าไม่สามารถสร้างได้ หากคุณยังจะดึงดันรั้นที่จะสร้าง ย่อมไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน ...

ที่มา greenhomezone
www.greenhomezone.blogspot.com
read more "จะต่อเติมบ้าน ระวังปัญหาตามมา"

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

การเลือกโถส้วม เลือกตอนไหน เลือกอย่างไร

ถ้าคุณไปถามผู้รับเหมาสร้างบ้านร้อยทั้งร้อย เขาจะบอกว่าให้คุณเลือก โถส้วม หรือสุขภัณฑ์ให้เรียบร้อยก่อน เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่า ถ้าเขารู้ว่าประเภทของสุขภัณฑ์หรือโถส้วมเป็นแบบไหน เขาจะได้ วางท่อ ทั้งในผนังหรือพื้นให้ถูกต้อง เพราะผู้รับเหมาหลาย ๆ คนคงไม่ชอบที่จะมานั่ง ทุบนั่งสกัด เพื่อวางท่อ หรือสุขภัณฑ์ให้เปลืองค่าแรงอย่างแน่นอน และที่สำคัญ การที่ไปเจาะไปทุบ ผนัง พื้น หรือโครงสร้างส่วนอื่น ๆ ของบ้านเพื่อวางท่อ สุขภัณฑ์ อาจจะทำให้โครงสร้างของบ้านเกิดการเสียหายได้ อาจจะมีผลกระทบไม่มาก แต่ในระยะยาวแล้ว ย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน...

ส่วนเรื่องที่ว่าจะใช้สุขภัณฑ์แบบไหนยี่ห้ออะไรดี ของแบบนี้มันก็แล้วแต่ ความชอบส่วนบุคคลครับ เพราะว่าแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน งั้นก็เอาเป็นว่าชอบแบบไหนก็เลือกได้เลยครับ แต่อย่างลืมเอาไปให้ช่างดูด้วยล่ะ ว่าเราเลือกแบบนี้นะ ช่างจะได้เตรียมงานถูก
read more "การเลือกโถส้วม เลือกตอนไหน เลือกอย่างไร"

การยกพื้นบ้าน ควรยกสูงเท่าไรดี

การยกพื้นบ้าน ให้มีความสูงมากกว่าพื้นดินเป็นเป็นที่นิยมกันมาก เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูสวยแล้ว การยกพื้นบ้านยังทำให้ สัตว์เลื้อยคลาน หรือ สัตว์ที่เป็นอันตราย ขึ้นมาบนบ้านได้ยาก แต่คำถามที่ว่าควรจะยกพื้นสูงเท่าไร มาหาคำตอบได้ที่ greenhomezon.blogspot.com

ในการยกพื้นบ้านคุณควรจะยกพื้นให้สูงกว่า 1.2 เมตร นั่นก็เพราะว่า เป็นความสูงที่ ช่างสามารถมุดเข้าไปข้างใต้ เพื่อดึงเอาไม้แบบคืนมาได้ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าไม้แบบ ถ้าความสูงน้อยกว่านี้ เราอาจจะเสียไม้แบบเพราะเราไม่สามารถมุดเข้าไปเอาคืนมาได้

แต่ถ้าถามว่า แล้วถ้าอยากได้ต่ำกว่า 1.2 เมตร จะทำอย่างไร คำตอบก็คือว่า ถ้าเช่นนั้นคุณก็ทำให้สูงไม่เกิน 0.7 เมตร เพราะเราจะได้เอาดินมาถมแทน การใช้ไม้แบบไปเลย

แต่ถ้าอยากได้ความสูง ที่มากกว่า 0.7 เมตร แต่ไม่เกิน 1.2 เมตร ก็แนะนำว่าให้ออกแบบ พื้นโดยใช้พื้นสำเร็จรูปแทน เพราะเราสามารถใช้ไม้ที่ไม่ต้องดีมาก มาค้ำยันไว้ก่อนเทพื้น ซึ่งเราก็จะเสียไม้น้อยมากเพราะทำการค้ำยันไม่กี่จุดเท่านั้น....

ที่มา greenhomezone
www.greenhomezone.blogspot.com
read more "การยกพื้นบ้าน ควรยกสูงเท่าไรดี"

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การนึกภาพก่อนเลือกแบบบ้าน

หลาย ๆ คนที่สร้างบ้าน มักจะมองแบบบ้านของตัวเอง ในมุมสูง หรือทำตัวเป็นนก บินอยู่บนอากาศแล้วมองลงมา ซึ่งจริง ๆ แล้วเราทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าวิธีมองในมุมสูงนั้นไม่จำเป็น แต่สิ่งที่คุณควรทำในการมองแบบบ้านคือการนึกภาพตัวเองกำลังเดินเข้าบ้านต่างหาก ดังนั้นเวลาเราจะสร้างบ้าน ให้นึกถึงว่า คุณกำลังเดินไปในบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว แล้วลองจินตนาการดูว่า ถ้าหันซ้ายจะเป็นห้องอะไร หันขวาจะเป็นห้องอะไร และที่สำคัญควรจะนึกถึง ธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวบ้านรวมทั้งตัวคุณด้วย เช่น แสงแดดส่องไปทางไหน ลมพัดเข้าทางไหน หรือว่า ฝนสาดไปทางไหน 
            บางคนเวลาจะสร้างบ้านสักหลัง มักจะวาดแปลนบนกระดาษ คร่าว ๆ แต่ไม่นึกถึง การใช้งานจริง และความต่อเนื่องของห้องต่าง ๆ เช่น บางคนขอให้มีห้อง นอนครบ3ห้อง ก็พอ จะจัดไว้ตรงไหนก็ได้ โดยไม่นึกถึงว่า สภาพแวดล้อมภายนอกจะเป็นอย่างไร บางครั้ง ก็ได้ห้องนอน ที่หันหัวติดกับครัวบ้าง จะย้ายก็ไม่ได้ เพราะติดห้องน้ำอีก หรือ ติดประตูบ้าง สุดท้ายก็ได้บ้นที่ไม่ถูกใจ จนแทบอยากจะทุบทำใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด
             ในการจัดวางห้องต่าง ๆ จึงควรดูจากสภาพแวดล้อมภายนอก ให้มากที่สุด เช่นดูทิศทางแสงแดดยามเช้า เที่ยงเย็น ทิศทางลมที่พัดเข้าตัวบ้าน ทิศทางที่ฝนสาด สภาพแวดล้อมภายนอกโดยรวม ถ้านึกถึงสิ่งเหล่านี้ จะทำให้คุณได้บ้านที่ถูกใจ ไม่เป็นปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ร้อนบ้าง ฝนสาดบ้าง ในภายหลัง แถมถ้าจัดถูกที่ถูกทาง จะทำให้ประหยัด ได้อีกด้วย
read more "การนึกภาพก่อนเลือกแบบบ้าน"

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เกิดปัญหากับ สถาปนิก และ วิศวกร ร้องทุกข์ที่ไหนดี

ย้ำก่อนว่าคุณจะร้องเรียนปัญหาได้ก็ต่อเมื่อปัญหานั้น เกี่ยวข้องกับ จรรยาบรรณ ความสามารถ ความซื่อสัตย์ ของวิศวกร หรือ สถาปนิกเท่านั้น เช่น เสาเข็มในแบบ ระบุว่าให้ใช้เข็มยาว 7 เมตร แต่เวลาตอกจริง เข็มเหลือแค่ 5 เมตร ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้คุณสามารถที่จะร้องเรียน หรือ ร้องทุกข์ได้หากว่าเกิดการตกลงกันไม่ได้ และถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นให้ดำเนินการดังนี้
        ร้องทุกข์  คุณสามารถไปขอคำปรึกษา หรือ ร้องทุกข์ได้ที่ สมาคม สถาปนิกสยาม หรือ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งตรงส่วนนี้คุณจะได้คำแนะนำที่ถูกต้องมากที่สุด และฟรี ไม่เสียเงิน
        ทำหนังสือร้องทุกข์  ในส่วนนี้จะเป็นทางการสักหน่อย ก็คือทำเป็นหนังสือ ไปร้องทุกที่ สภาวิศวกร หรือ สภาสถาปนิก ซึ่งควรจะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อ วิธีแรกนั้นไม่ได้ผล
        ฟ้องศาลสถิตยุติธรรม  ถ้าแจ้งทาง สภาวิศวกร หรือ สภาสถาปนิกไปแล้ว ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ฟ้องศาลได้เลยครับ
read more "เกิดปัญหากับ สถาปนิก และ วิศวกร ร้องทุกข์ที่ไหนดี"

ราคาค่าออกแบบ คิดกันอย่างไร

ผมได้แบ่ง ค่าบริการออกแบบไว้หลายแบบ แล้วแต่ว่าคุณจะไปเจอแบบไหน ซึ่งมีตั้งแต่ แบบคิดกันเป็นทางการ และคิดกันแบบเพื่อนสนิท ก็มีซึ่งมีอยู่หลายกรณีดังนี้
กรณีที่ 1 ราคาตามมาตรฐานสมาคมสถาปนิกสยาม
            ซึ่งแบ่งไว้เป็น 6 ประเภท ได้แก่
            ประเภทที่1 ตกแต่งภายใน ครุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์
            ประเภทที่2 พิพิธภัณฑ์ วัด อนุสาวรีย์ อาคาร อนุสรณ์ที่วิจิตร
            ประเภทที่3 บ้าน เฉพาะตัวบ้านไม่รวมตกแต่งภายใน
            ประเภทที่4 โรงพยาบาล โรงแรม ธนาคาร คอนโดมิเนียม วิทยาลัย รัฐสภา
            ประเภทที่5 สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หอพัก โรงเรียน โรงงาน อุตสาหกรรม
            ประเภทที่6 โกดัง อาคารจอดรถ ห้องแถว ตลาด
        
            จากนั้นเอาประเภทของงานไปหาราคาออกแบบ

   ประเภท   ไม่เกิน10ล้าน   10-30ล้าน   30-50ล้าน   50-100ล้าน   100-200ล้าน   200-500ล้าน
       1            10.0%         7.75%       6.50%        6.00%           5.25%            4.50%
       2            8.50%         6.75%       5.75%        5.50%           4.75%            4.25%
       3            7.50%         6.00%       5.25%        5.00%           4.50%            4.00%
       4            6.50%         5.50%       4.75%        4.50%           4.25%            3.75%
       5            5.50%         4.75%       4.50%        4.25%           4.00%            3.50%
       6            4.50%         4.25%       4.00%        3.75%           3.50%            3.25%
     
ในการคิดราคาก็อย่างเช่นถ้าหากว่าคุณจะสร้างบ้าน คุณก็ดูว่าบ้านอยู่ในการออกแบบประเภทที่3 คุณก็ดูว่าราคาบ้านมีมูลค่าเท่าไร แล้วเอามาเทียบในตาราง เช่น
                           บ้านราคา             1 ล้านบาท
                           ค่าออกแบบเท่ากับ 7.5% = 75,000 บาท
แต่ถ้าหากว่าราคาแพงกว่านั้นเช่น
                           บ้านราคา            15 ล้านบาท
                           ค่าออกแบบ10ล้านแรก=750,000 บาท=7.5%
                           ส่วน อีก 5 ล้านเหลือ   =300,000 บาท=6.0%
                           รวมค่าออกแบบทั้งหมด ก็จะเป็น 1,050,000 บาท

จะเห็นว่าค่าออกแบบนั้นราคาค่อนข้างสูงมาก แต่ถ้าคุณมีคนที่หรือจัก หรือหาผู้ที่รับออกแบบโดยคิดราคาแบบเหมาจ่ายได้ ซึ่งในปัจจบันการแข่งขันในงานด้านนี้ก็ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ประกอบการหรือวิศวกรต่าง ๆ หาวิธีที่จะดึงดูดลูกค้าเพื่อหาเงินกันเยอะ ทำให้ราคาค่อนข้างถูกลง

กรณีที่2 แบบเหมาจ่าย วิธีนี้จะใช้ได้กับการออกแบบ อาคารขนาดเล็กราคาประมาณ 5 แสน - 1 ล้าน บาท หรืออาจจะสูงกว่านี้ได้นิดหน่อย แล้วแต่ผู้รับจ้างจะรับออกแบบหรือไม่ โดยราคาก็อยู่กับความ ยากง่ายของงาน อาจจะมีราคาตั้งแต่ หลักพันบาท ไปจนถึง หลายหมื่นบาท แต่ก็ยังถูกกว่า กรณีแรกอยู่มาก
ซึ่งวิธีนี้เกิดจาก เทคโนโลยีการออกแบบ ที่เข้ามา มีบทบาท เมื่อก่อนนั้น กว่าจะได้บ้านสักหลัง ต้องใช้ปากกาวาดบรรจงเขียนทีละเส้น ซึ่งบ้านหนึ่งหลังอาจจะใช้เวลานานหลายวัน แต่เดี๋ยวนี้ อาจจะใช้เวลาไม่ถึง 3 วันในการออกแบบบ้านหนึ่งหลัง รวมทั้งการออกแบบโครงสร้างของวิศวกรแล้ว อาจจะใช้เวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ 

แม้ว่าผู้ว่าจ้างอยากจะได้ ราคาค่าออกแบบที่ถูกมากขนาดไหน แต่ก็ไม่ควรลืมว่า คุณภาพของงานที่ได้มานั้นต้องดี และสามารถใช้งานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หรือถ้าหากว่ามีส่วนไหนของแบบที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อสอบถามไปยังผู้ออกแบบ ก็ควรจะได้รับคำตอบ หรือ วิธีแก้ไข โดยไม่ทิ้งงานไป หรือว่า ออกแบบแล้วก็แล้วกัน ทำได้ไม่ได้อีกเรื่อง  สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่า ทุกบาททุกสตางค์ที่คุณจ่ายไปคุ้มค่าหรือไม่
read more "ราคาค่าออกแบบ คิดกันอย่างไร"

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จะสร้างบ้านเริ่มอย่างไรดี


เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับคนที่เป็นช่าง ทั้งหลาย แต่ว่าสำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเลย บทความนี้ อาจจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ซึ่งผมจะแยกไว้เป็นหลายกรณีเพื่อให้เป็นแนวทางได้ศึกษาต่อครับ

กรณีที่1 ถ้าคุณไม่ต้องการความยุ่งยากมาก ต้องการแบบรวดเดียวเสร็จจบกระบวนการ คุณก็ควรเดินไปที่บริษัทรับเหมาสร้างบ้าน หรือหาตามเวปไซต์ต่าง ๆ เพื่อติดต่อให้บริษัทเหล่านั้นมาสร้างบ้านให้แก่คุณ คุณก็ไม่ต้องทำอะไรมากแค่เลือกแบบที่ต้องการ และเลือกวัสดุที่บริษัทเหล่านั้นนำมาเสนอ ก็ส้รางบ้านได้ และมีราคาค่าก่อสร้าง ที่ตายตัวหากไม่ทำการแก้ไขแบบ แต่คุณอาจจะได้แบบบ้านที่ไม่ตรงใจ หรือตรงกับในจินตาการสักเท่าไร

กรณีที่2 ถ้าอยากได้แบบบ้านที่ถูกใจเป๊ะ คุณต้องไปติดต่อสถาปนิก เพื่อที่จะออกแบบบ้านให้ตรงใจของคุณ ตรงนี้คุณจะต้องเสียเงินเป็นค่าออกแบบอีก แต่รับรองถูกใจเจ้าของบ้านแน่ ซึ่งควรจะเลือกผู้ออกแบบที่รู้จักกันเพื่อประหยัดค่าออกแบบด้วย แต่ถ้าไม่มีคนที่รู้จัก ตามเวปไซต์ต่าง ๆ ก็สามารถช่วยคุณได้  ซึ่งวิธีนี้อาจจะทำให้ ราคาบ้านเกินงบ ออกไปสักหน่อย แต่ก็ได้บ้านที่ถูกใจ ทั้งรูปทรง และวัสดุที่ใช้ เชียวล่ะ

   
read more "จะสร้างบ้านเริ่มอย่างไรดี"